วันอาทิตย์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

ไฟไหม้โรงงานโฟม พลาสติก กิ่งแก้ว

ภาพจาก : ศูนย์รวมเหตุภูมินทร์ , กู้ชีพ&ดับเพลิง

วันที่ 5 กค 65 เวลา 13.40 

🔥ไฟไหม้โรงงานที่กิ่งแก้ว

เกิดเหตุถังสารเคมี ขนาด 2,000 ตัน ระเบิดภายในบริษัท ผลิตโฟม และเม็ดพลาสติกแห่งใหญ่แห่งหนึ่ง

ที่ซอยกิ่งแก้ว 21 หมู่ 15 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

เพลิงกำลังลุกไหม้ตัวอาคารโรงงานอย่างรุนแรง และมีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะๆ

แรงอัด ทำให้บ้านเรือนและโรงงานที่อยู่โดยรอบข้างรัศมี 500 เมตร

ได้รับความเสียหายจำนวนมาก

เศษซากโรงงานปลิวทั่วบริเวณ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายสิบราย

โดยส่วนมาก บาดเจ็บจากการแรงอัดและกระจกบ้านเรือนตกตกใส่

ขณะที่มีคนงานบางส่วน ถูกแผ่นปูนอาคารถล่มลงมาทับ

สันนิษฐานว่าเกิดจากตัวทำละลายที่ชื่อว่า "สไตรีนโมโนเมอร์" ซึ่งเป็นตัวทำละลายที่

💥 สไตรีนโมโนเมอร์

- เป็นของเหลวใสและข้นเหนียว

- สูตรทางเคมี C8H8

- CAS # 100-42-5

- น้ำหนักโมเลกุล 104.16 ถ้าสารมีอุณหภูมิ 31°C (88°F) ขึ้นไป จะเป็นสารไวไฟขึ้น

- การดับเพลิง
ให้ใช้น้ำยาประเภทคาร์บอนไดออกไซด์หรือเคมีแห้ง

- ทำปฏิกิริยาอย่างรุนแรงกับสารพวกออกซิไดซิ่ง เอเจ้นท์ (Oxidizing Agent) และกรดเข้มข้น เช่น กรดกำมะถัน

- อันตรายต่อสุขภาพ ระคายเคืองต่อ ระบบทางเดินหายใจตอนบน  ดวงตา ผิวหนัง คลื่นไส้ วิงเวียน และอาเจียน

หากสัมผัสเป็นระยะเวลานานจะมีผลกระทบต่อระบบเลือด และอาจเป็นสารก่อมะเร็งได้

ภาพจาก : ศูนย์รวมเหตุภูมินทร์ , กู้ชีพ&ดับเพลิง

- สาเหตุอื่นๆ รอพิจารณา เพิ่มเติมครับ

❤ เป็นกำลังใจให้ทีมดับเพลิง กู้ชีพ กู้ภัย ทุกคนนะครับขอให้ปลอดภัย

The Safety Coach
ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยในการทำงาน

อ.ปราโมทย์ โอภาสมงคลชัย

www.pramoteo.com

#ไฟไหม้กิ่งแก้ว
#อันตรายสไตรีนโมโนเมอร์
#ถังสารเคมีระเบิด
#หมิงตี้เคมีคอล
#โรงงานผลิตเม็ดโฟม
#โรงงานพลาสติกกิ่งแก้ว

วันอังคารที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2564

6 กฎกติกาในการเรียนออนไลน์

ผมมีโอกาสได้สอนออนไลน์ ในหลายหลักสูตร ให้กับบริษัทมหาชน และ อีกหลายบริษัท รวมถึงมหาวิทยาลัยด้วย

จึงอยากจะแบ่งปัน สิ่งที่ได้เรียนรู้ ที่เป็นประโยชน์ สำหรับท่านที่จำเป็นต้องเข้าเรียนออนไลน์ เพื่อให้ได้รับประโยชน์มากที่สุดครับ ดังนี้

1. มีคลิปวีดีโอ สอนวิธีการใช้งานและกติกาในการเรียน

ก่อนเริ่มการสอนออนไลน์ บ.จะเปิดคลิปวีดีโอสั้นๆประมาณ 2 นาที พูดถึงกฎกติกามารยาท ว่าต้องทำอะไรบ้าง 

เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรม ได้ทราบว่า สิ่งใดทำได้ สิ่งใดทำไม่ได้ จะได้ไม่เป็นการรบกวนผู้อื่น เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการเรียน

2. มี Host ประจำห้องซึ่งเป็นคนของบริษัท

บางที่จะให้วิทยากรเป็น Host ในการฝึกอบรม ซึ่งวิทยากรไม่สะดวกครับ เพราะต้องสอน ต้องจดจ่อกับเนื้อหา และผู้เรียน จะให้มาคอย แบ่งห้อง Break Out Room เปิด-ปิดไมค์ เปิดกล้องของแต่ละคน คงไม่ไหว

บางบริษัท ใช้ซอฟต์แวร์ ของบริษัท ดังนั้น คนนอกไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็น Host ก็เป็นข้อดี ที่เขาเข้ามาช่วย อำนวยความสะดวกให้ทางวิทยากรและผู้เรียน

3. กำหนดให้ผู้เรียนเปิดกล้องตลอดเวลา

ตรงนี้ผมไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ เป็นเหตุผลส่วนตัว คือ การเปิดกล้องมีข้อดีที่เห็นหน้าเห็นตากัน เกิดปฏิการสัมพันธ์มากขึ้น 

แต่มิควรถึงขนาดว่า ไม่ให้ปิดกล้องเลย เพราะบางครั้ง เขาอาจจะมีเหตุบางอย่างส่วนตัวที่ต้องทำ หรือมีใครเข้ามายุ่ง ในขณะที่เรียนอยู่

เราก็อนุญาตให้ปิดได้บ้าง ผมว่า เป็นการลดความตึงเครียดให้กับผู้เรียน 

เราอาจจะกังวลว่าเขาไม่เรียน ไม่อยู่ถ้าปิดกล้อง แต่จริงๆแล้ว เรามีวิธีวัดผลครับ สามารถวัดผลได้ โดยไม่ต้องเปิดกล้อง

การวัดผลก็สามารถวัดได้ในขณะที่กำลังเรียน รวมไปถึงหลังเรียนเสร็จแล้วก็วัดผลได้จากการทำแบบทดสอบ

ซึ่งมันจะบ่งบอกว่าผู้เรียนสนใจเข้าใจมากน้อยแค่ไหน 

สมองจะมีความสุข เมื่อมีทางเลือก  เราก็ต้องให้ผู้เรียนมีทางเลือกบ้างครับ

4. ใช้ระบบ QR code ในการทดสอบและประเมินผลการเรียน

ตรงนี้ดีมาก และ สะดวกสำหรับผู้เรียนทุกคน และยังช่วยประหยัดกระดาษ รักษาสิ่งแวดล้อม ผู้เรียนก็สะดวกครับ เอกสารไม่ตกหล่นครับ ไม่ต้องวิ่งหาปากกา แค่มีนิ้วก็เขียนได้ครับ

5. ไม่อนุญาตให้บันทึกการเรียนการสอน

อันนี้ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละบริษัทจะบันทึกการสอนไปเพื่อใช้ทำอะไร และอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญมาก คือ มันเป็นสิทธิส่วนบุคคลของผู้เรียนครับ ที่จะ ยอมให้ถูกบันทึกภาพและเสียง 

อันนี้ต้องเคารพสิทธิส่วนบุคคลเขาด้วยนะครับ ต้องขออนุญาตเขาก่อน

รวมไปถึงก็ต้องเห็นใจวิทยากรด้วยครับ ช่วงนี้ก็แทบจะแทะฝาบ้านกินกันแล้ว

ถ้าอัดคลิปแล้วไปเปิดสอนต่อๆกัน ผมว่าวิทยากรก็คงจะไม่ต่างกับนักร้องล่ะครับ เลิกดีกว่า 

ทำแล้วถูกละเมิดลิขสิทธิ์ อดตายครับ ไม่มีกำลังใจในการพัฒนาผลงานต่อไปอีก


6. ความปลอดภัยในการเรียนออนไลน์

ไม่อนุญาตให้เรียนในขณะที่ทำงานอยู่กับเครื่องจักร หรือ ขับขี่รถ ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อผู้เรียน นอกจากจะไม่ได้โฟกัสกับการเรียนแล้วประสิทธิภาพย่อมไม่เกิดขึ้น แล้วยังก่อให้เกิดอันตราย ต่อร่างกายและชีวิตด้วย ได้อีกด้วย

ทั้งหมด ก็เป็นประสบการณ์ที่ผมอยากจะแบ่งปันครับว่า การเรียนออนไลน์นั้นเขาทำกันอย่างไร มีกฎกติกาอะไรบ้าง เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้เรียนครับในยุค Next Normal

สำหรับท่านที่มีข้อสงสัย หรือต้องการติดต่อให้ผมไปอบรม online หรือ Onsite
สามารถติดต่อผมได้โดยตรงครับ

อบรมความปลอดภัยออนไลน์กับ อ.ปราโมทย์ โอภาสมงคลชัย 
The Safety Coach ได้ที่


Website : The Safety Coach
โทร 0896784547


#หลักสูตรอบรมความปลอดภัยออนไลน์
#อบรมbbsออนไลน์
#เรียนออนไลน์กับอ.ปราโมทย์

อบรมความปลอดภัย ออนไลน์ มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร?


ในยุคนี้ เป็นยุคที่ ต้องด การประชุม อบรม สัมมนา จากที่เคยพบเจอกันเหมือนปกติ โดยต้องพึ่งพาระบบออนไลน์เป็นหลัก 

ผมเองซึ่งเป็นวิทยากรด้านความปลอดภัย ก็ต้องเปลี่ยนตัวเองมาสอนในรูปแบบออนไลน์เช่นเดียวขึ้น

ในบทความนี้ จะแชร์ประสบการณ์จากการที่สอนออนไลน์มาระยะเวลาหนึ่ง ว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง

ข้อดีต่อสถานประกอบการ 

1. ช่วยลดค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสถานที่ อาหาร ขนมเบรกและ ค่าตอบแทนวิทยากร เพราะไม่ต้องบวกค่าเดินทาง และ ที่พัก

2. พนักงานอยู่ที่ไหนก็สามารถอบรมได้ เพราะตอนนี้หลายคนก็ Work at Home

3. สามารถอบรมได้ทีละมากๆ รวมถึง ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้อีกด้วย


ข้อดีสำหรับวิทยากรความปลอดภัย

1. ไม่ต้องออกเดินทางไกล ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

2. บางหลักสูตร สามารถอัดเป็นคลิป นำขายซ้ำได้ โดยไม่ต้องพูดหลายรอบ

3. ลดความเสี่ยง ในการติดเชื้อโควิค-19 ได้

ข้อเสียของการอบรมความปลอดภัยออนไลน์

1. การปฏิสัมพันธ์ระหว่าง ผู้สอนกับผู้เรียนน้อยลง เนื่องจากไม่ได้เห็นหน้าเห็นตากันอย่างชัดเจน ทำให้ไม่รู้ว่าตอนนี้ ต่างฝ่ายต่างรู้สึกอย่างไร

2. บางจังหวะที่ตั้งคำถาม ผู้เรียนบางคนก็จะนิ่งไม่ตอบ ทำให้ไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังสนใจกันอยู่หรือเปล่า และคนที่ตอบเป็นประจำ ก็เริ่มเขินไม่กล้าตอบไปด้วย

3. ผลลัพธ์ที่ได้จากการอบรม ย่อมมีประสิทธิภาพน้อยกว่าการสอนแบบออฟไลน์ หรือ สอนแบบเห็นหน้าเห็นตากันชัดเจนจริงๆ

4. การทำ Brainstorming หรือ  Workshop ทำได้ไม่เต็มที่  เพราะ ไม่สามารถใช้อุปกรณ์ต่างๆได้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นฟลิปชาร์ต หรือ ดินสอ ปากกา และอุปกรณ์ต่างๆ

จะเห็นว่าการอบรมความปลอดภัยออนไลน์จะมีประสิทธิภาพลดลง แต่เรื่องของความปลอดภัย เรื่องความปลอดภัยเป็นเรื่องที่สำคัญมาก รอไม่ได้

ดังนั้นสถานประกอบการ ที่ต้องการหาวิทยากรเพื่อสอนออนไลน์นั้น ก็จำเป็นจะต้องศึกษาคุณสมบัติของวิทยากรให้เป็นอย่างดี 

และ ดูความเชี่ยวชาญชำนาญในการสอนในรูปแบบของออนไลน์ในหัวข้อนั้นๆ จาก YouTube หรือ Podcast ต่างๆ รวมถึง Blog บทความต่างๆ หรือหนังสือที่วิทยากรความปลอดภัยท่านนั้นทำไว้ 

เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า วิทยากรท่านนั้นมีความเชี่ยวชาญ และมีความคุ้นเคยกับสื่อดิจิตอล จะช่วยทำให้วิทยากรที่เราเลือกให้สอนความปลอดภัยในรูปแบบออนไลน์นั้น จะไม่ทำให้ผิดหวัง

ตอนนี้ผมเองก็ปรับตัว เตรียมอุปกรณ์ครบถ้วนแล้ว และสอนสดผ่าน Facebook live ของ สสปท สัปดาห์ความปลอดภัยมาแล้ว ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี 

ผมเตรียมพร้อมกับการสอนความปลอดภัยในระบบออนไลน์เรียบร้อยแล้ว 


หลักสูตรอบรมความปลอดภัยออนไลน์

1. Behavior-BasedSafety (BBS)
2. การโค้ชเพื่อความ (Safety Coaching)
3. ผู้นำด้านความปลอดภัย (Safety Leadership)
5. สร้างจิตสำนึกความ ปลอดภัย (Safety Mind หรือ Safety Awareness)

ความปลอดภัยในการทำงาน มีความสำคัญต่อชีวิตเรา

คงจะเพิกเฉยไม่ได้ เราจะมัวแต่รอให้ มีจัดอบรม in-house ได้เหมือนเดิมคงจะรอไม่ไหว

เราเข้าสู่โลก Next to Normal เรียบแล้วแล้วครับ คือ เรื่องของการอบรมความปลอดภัยออนไลน์ (Safety Training Online)

สามารถติดต่อผมได้โดยตรงครับ

อบรมความปลอดภัยออนไลน์กับ อ.ปราโมทย์ โอภาสมงคลชัย 
The Safety Coach ได้ที่ คลิก

โทร 0896784547


#หลักสูตรอบรมความปลอดภัยออนไลน์
#อบรมbbsออนไลน์

วันพฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2564

เป็นนักพูดมืออาชีพ ไม่ยากใครๆก็เป็นได้


เมื่อ 11 ปีที่แล้ว มีโอกาสได้ไปกินข้าวกับเพื่อนๆที่อยุธยา 

ได้พูดคุยเกี่ยวกับ การออกมาเป็นนายตัวเอง ซึ่งทุกคนก็อยากจะเป็น แต่รู้สึกว่า ต้องใช้ทุนสูง จึงเป็นนายตัวเองไม่ได้

น้องคนหนึ่งแนะนำว่า 

พี่โมทย์ พี่ทำงานสอนให้กับบริษัทอยู่แล้ว พี่น่าจะออกมาเป็นวิทยากรนะ เพราะลงทุนต่ำ ต้นทุนพี่มีอยู่แล้วด้วย ในเรื่องของความรู้ นั่นก็คือ Product นั่นเอง 

จริงๆผมอยากจะออกมาเป็นวิทยากรตั้งนานแล้ว แต่เมื่อน้องคนนี้พูดทำให้ผมเริ่มเห็นโอกาส และ เห็นคุณค่าในตัวเองมากขึ้น จึงตัดสินใจออกมาเป็นวิทยากรเต็มตัวตั้งแต่ 11 ปีที่แล้ว

ผมเชื่อว่า โอกาสอยู่รอบๆตัวเราเต็มไปหมด แต่ถ้าเราไม่สนใจ ไม่ตั้งใจฟังให้ดี หรือไม่ตั้งใจสังเกต 

โอกาสจึงกลายเป็นเพียงแค่อากาศ ทั้งๆที่มันมีความสำคัญมาก แต่เรากลับไม่เคยเห็นไม่เคยรู้สึกเลย

ทุกวันนี้ผมต้องขอบคุณน้องคนนี้มาก ที่ช่วยแนะนำ จนทำให้ผม ได้เป็นนายตัวเอง มีบริษัทเป็นของตัวเอง มีรายได้เพียงพอในการดูแลทุกคนในครอบครัว 

มีคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่จำเป็นต้องทำงานทุกวัน และมีคนนับหน้าถือตาให้เกียรติให้การเคารพ ผมมีความสุขมากครับกับอาชีพวิทยากร 

สำหรับน้องๆพี่ๆ ที่อยากเป็นวิทยากรหรือ พัฒนาทักษะการพูด

ผมเชื่อว่าทุกคนทำได้ แต่ที่คนส่วนใหญ่ทำไม่ได้นั้น เพราะเรายังไม่รู้กระบวนการครบถ้วน รวมไปถึงเรายังขาดความกล้า และขาดการลงมือทำ 

ดังนั้น การลงมือทำ คือ บิดาของทุกสิ่ง หากเราไม่เคยลงมือทำ เราจะรู้ได้ยังไง ว่า นี่คือสิ่งที่เราทำได้ดี ไปถึงที่เราทำแล้วมีความสุข รวมถึงมีรายได้ที่ดีด้วย 

แต่สำหรับคนที่ทำงานประจำอยู่ และไม่กล้าลาออกมาแบบเต็มตัว ก็แนะนำให้หาโอกาส ที่ว่างจากงานประจำ ไปลองหาเวที 

โดยอย่าเพิ่งคิดเรื่องของรายได้เป็นอันดับ 1 แต่ให้คิดถึงเรื่องของ ประสบการณ์ เป็นเรื่องแรก 

ทุกคนต้องเคยผิดพลาด เมื่อลงมือทำใหม่ๆ 

การพูดเป็นเรื่องที่สำคัญ ไม่ใช่เพียงแค่จป. วิชาชีพเท่านั้นที่ต้องพูด พ่อค้า แม่ค้าค้าขายออนไลน์ หัวหน้างาน ผู้จัดการก็ต้องพูดต้อง โน้มน้าวคน

แต่น่าเสียดายโรงเรียนไม่ได้สอน ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง 

ข่าวดี! ผมนำสิ่งเหล่านี้มาเผยแพร่แล้วนะครับ 

สำหรับผู้ที่สนใจ หนังสือ เป็นนักพูดมืออาชีพไม่ยาก ใครๆก็เป็นได้ 

มีวางจำหน่ายทางออนไลน์เท่านั้นนะครับ เล่มละ 270 บาท พิเศษโปรโมชั่นเดือนมีนาคม ส่งฟรี EMS 

ติดต่อได้ที่ LINE:  @thesafetycoach

"เป็นนักพูดอาชีพไม่ยาก ใครๆก็เป็นได้"
www.pramoteo.com


วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

อยากเป็นวิทยากรความปลอดภัย

วิทยากรความปลอดภัย ค่าตัว วันละเท่าไหร่ ?

มือใหม่ ค่าตัวเฉลี่ย 6,000 บาท ต่อวัน 

แต่ถ้าประสบการณ์เยอะหน่อย ก็อยู่ที่หลักหมื่นขึ้นไป 

หลายคน ก็อยากจะเป็นวิทยากร แต่ก็เป็นไม่ได้สักที  โดยมีสาเหตุมาจาก

1. ความกลัว

กลัวว่าจะทำไม่ได้ กลัวว่าจะมีรายได้น้อยกว่าเงินเดือนประจำ 

คนเราชอบคิดแบบนี้ สุดท้ายก็กลับไปทำงานประจำเหมือนเดิม

อันดับแรก ต้องเชื่อก่อนว่า "เราทำได้"

ในช่วงแรกไม่มีทางหรอก ที่จะได้รายได้มากกว่างานประจำ มันต้องใช้เวลา พรรษาน้อยก็นานหน่อย

2. เคยเจอประสบการณ์ที่ไม่ดี

บางคนเคยไปพูด แล้วมีคนนั่งหลับ เดินออก หนักหน่อยก็ถูกพูดจา ดูถูก ดูแคลน 

ตั้งแต่นั้นมา ก็เลิกพูดทันที

ให้มองว่ามันคือ "เรื่องปกติ" ไม่มีใคร ที่จะทำให้คนชอบได้ทั้งหมด 

ประสบการณ์มีไว้เรียนรู้ "ผู้ฟัง" ของเราทุกคน คือ "ครู"

อาจจะมีตำหนิบ้าง แต่ก็ทำให้เราดีขึ้นจริงไหม?

3. ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร

ไม่จริงหรอกที่บอกว่าไม่รู้จะพูดอะไร เพราะเรื่องที่เราจะพูด เรารู้ดีอยู่แล้ว

เราเพียงแค่ ไม่ได้ "เรียบเรียง"  ให้มันเหมาะสมกับเนื้อหา ก็เท่านั้นเอง

ลองเรียบเรียงดู จะรู้ว่าบางครั้งเวลาที่ให้พูด แทบจะไม่พอด้วยซ้ำ

4. ไม่มีความรู้ทางการตลาด

อันนี้เป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับคนที่ทำงานประจำ

เพราะขาดทักษะของผู้ประกอบการ

วิธีแก้ ให้ลองสังเกตดูว่า วิทยากรเก่งๆ เขาทำอย่างไร

หรือ ลองไปค้าขายออนไลน์ดู ก็จะเริ่มมีประสบการณ์ว่า จะค้าขายยังไง 

ข่าวดี !

ทุกข้อที่ผมเขียน วิทยากรมืออาชีพทุกคน เคยเจอกันมาหมดแล้ว และเขาก็ผ่านมันมาได้แล้ว

ดังนั้น

ถ้าเราเจอปัญหาเหล่านี้

นั่นหมายความว่า เราอยู่บนเส้นทางเดียวกัน ที่ถูกต้องแล้ว

"แพ้เป็นถ่าน ผ่านเป็นเพชร"

เราอยากจะเป็นอะไร...

เป็นนักพูดมืออาชีพ ไม่ยาก ใครๆก็เป็นได้

#วิทยากรความปลอดภัยมืออาชีพ
#นักพูดมืออาชีพ

พฤติกรรมความปลอดภัยสร้างได้
ปราโมทย์ โอภาสมงคลชัย


ติดต่ออบรมความปลอดภัย
สั่งซื้อหนังสือ

แจกอีบุ๊คฟรี

วันเสาร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2558

วางแผนการสอน ก่อนจะพูด

Picture Source : www.jumixdesign.com

สิ่งที่ผู้ฟังคาดหวังจากผู้สอนหรือผู้พูดก็คือ เขาต้องการให้เราตอบคำถามในใจที่เขามี แต่เชื่อมั้ยว่า คนที่นั่งตรงหน้าเรา เขามีคำถามในใจเยอะมาก แต่ในคำถามที่เขามีเยอะแยะมากมายนั้น มีเพียงคำถามเดียวเท่านั้น ที่เขาอยากจะรู้ และอยากให้เราตอบให้เขาเข้าใจมากที่สุด
ดังนั้นผู้พูด หรือผู้สอนจึงจำเป็นต้องเดาใจ เดาคำถามที่สำคัญที่สุดในใจของผู้ฟังให้ออก โดยเฉพาะ คำตอบที่เราให้ "จะต้องง่าย และทำให้เขาเกิดความประทับใจ"
การ Present ของสตีฟ จ็อบส์ ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ตระกูลไอ ของแอปเปิ้ล จัดได้เลย ว่าเป็นสุดยอดของการนำเสนอที่ดีที่สุดในโลก
เทคนิคที่เขาใช้คือ ตอบคำถามที่สำคัญที่สุด ที่ลูกค้าต้องการ และช่วยให้ลูกค้าจดจำผลิตภัณฑ์ของเขาแบบคาดไม่ถึง และนักข่าวไม่ต้องคิดมากในการนำไปเขียนข่าว เพราะสิ่งที่จ็อปส์พูด ทุกคนสามารถนำไปใช้ในการเขียนข่าวได้ทันทีเลย
ตอนที่จ็อปส์เปิดตัวโน้ตบุ๊คตัวล่าสุดของแอปเปิ้ล หลายคนสงสัยว่า มันจะมีอะไรที่แตกต่างจากโน้ตบุ๊คตัวอื่นๆ ต่างก็เดาชื่อกันสาระพัด และคิดว่ามันน่าจะชื่อว่า "โน้ตบุ๊คดรีม"
ปรากฎว่า จ็อปส์ ล้วงกระเป๋าหยิบ ซีพียูที่เล็กที่สุดในโลกของอินเทลขึ้นมา ชื่อว่า"ดูโอคอร์" หรือซีพียู ที่มีสมองที่มากกว่าหนึ่งสมองที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และความเร็วในการประมวลผล และบอกว่า มันอยู่ในคอมพิวเตอร์ตัวล่าสุดของเขา 
มันมีขนาดเล็กมาก แม้แต่คนที่นั่งแถวหน้าๆยังมองไม่เห็นลย แล้วเขาก็เดินไปเปิดผ้าคลุมบนโต๊ะ สิ่งที่ที่ทุกคนเห็นคือ โน้ตบุ๊ค  ที่บางและสวยงามที่สุดในโลก จ็อบส์ เรียกมันว่า "แมคแอร์" Mac Air สั้นๆชัดเจน คำว่า Mac แน่นอนมันหมายถึง ความสุดยอด ทันสมัย เรียบง่าย ส่วนคำว่า Air สื่อถึงความหมายของคำที่ยิ่งกว่าคำว่า "เบา"
นั่นหมายความว่า จ็อบส์ แทบจะไม่ได้ โชว์อะไรบนสไลด์เลย เพราะเขา"โชว์ของจริง" ที่มันกระแทกความรู้สึกของคน แม้คนดูจะมองเห็นไม่ชัด แต่รู้สึกได้
จ็อปส์ ได้สร้างเรื่องราว และประสบการณ์ให้ผู้ฟังก่อนที่เฉลยทุกอย่างในตอนจบ
"ศักยภาพทางความคิดของคน จะถูกผู้อื่นรับรู้ได้จาก คำพูดที่ออกมาจากปาก และตัวหนังสือที่ถูกปล่อยออกมาจากปลายนิ้ว"
ดังนั้น ถ้าต้องการให้การสอน หรือการพูดออกมาดี จงสร้างเรื่องราวดีๆ ให้มันเกิดขึ้นบนกระดาษก่อน แล้วจึงค่อยมาทำสไลด์ นั่นหมายความว่า ถ้าคุณทำสไลด์บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ก่อน สมองของคุณจะถูกตีกรอบ และจินตนาการที่มี จะถูกปิดกั้นทันที
 Picture source: http://pinoypilgrim.org
จงเปลี่ยนเรื่องราวที่สุดแสนจะน่าเบื่อ ให้เป็นเรื่องที่สุดแสนจะสนุก ตื่นเต้นประทับใจ
และจงจำไว้ว่า คนฟัง หลังจากเขาเรียนจบไปแล้ว เขา จำสิ่งที่เราพูดออกไปได้ไม่กี่ประโยคหรอก
ดังนั้นสิ่งที่เราอยากให้เขาจำได้ก็ควรเขียนบนจอเลย และอย่ายาวมาก ไม่ควรเกิน 140 คำ เหมือนที่เราเขียนในทวิตเตอร์ หรือน้อยกว่านั้น... หรือทำเป็นภาพให้มันชัดเจนไปเลย
โดยเฉพาะ Bullet ที่โชว์ขึ้นมา ก่อให้ไม่เกิดการโฟกัส แต่มันน่าจะเหมาะกับการเอาไปทำ"ลิสต์สำหรับจ่ายตลาดมากกว่า"
และถ้ามีของจริงก็หยิบมาโชว์เลย ดีกว่าการที่เอารูปไปแปะบนหน้าจอ ที่มองเห็นได้ แต่รู้สึกไม่ได้...
หลายคนอาจจะกังวลเกี่ยวกับการใช้พาวเวอร์พอยท์แต่สำหรับผมพาวเวอร์พอยท์ ทุกวันนี้ไม่มีผลใดๆกับผมแล้วครับ ทุกวันนี้ผมเหมือนมีแผนกกราฟฟิคอยู่ที่บ้านเลย เพราะปัจจุบันผมใช้ "คีย์โน้ต บนเครื่องแมค" มันง่ายมากครับ ^^

ติดตามข่าวสารต่างๆได้ที่เพจ
ปราโมทย์ โอภาสมงคลชัย

ต่างที่คิด...ชีวิตจึงปลอดภัย...

วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2557

6 ขั้นตอน เซฟตี้ ทอล์คโชว์ (Safety Talk show)


ถ้าพูดถึงการอบรมความปลอดภัย หลายคนก็เริ่มจะส่ายหัว เพราะเบื่อหน่ายมาก กับการมานั่งนิ่งๆ และฟังหลักการเดิมๆ ทฤษฎีเดิมๆ เรื่องเดิมๆ แล้วก็ภาพอุบัติเหตุ อันสยดสยองที่เห็นกันจนชินตา จนไม่อยากจะมอง สรุปคนหายไปกันหมด ไม่มีใครอยากเข้ามาเรียน เข้ามาฟัง

หลายๆบริษัท จึงเริ่มหาแนวทางใหม่ๆบ้าง โดยเฉพาะในช่วงของการจัดงานสัปดาห์ความปลอดภัยในการทำงาน ซึ่งเคยจัดการอบรมเป็นวันๆ เต็มวันให้กับผู้เข้าสัมมนา ก็เริ่มเปลี่ยนแนวทาง ให้กลายมาเป็น  "ทอล์คโชว์ ด้านความปลอดภัย" หรือ  "Safety Talk show" สั้นๆสัก 1 - 2 ชม. โดยเน้นความบันเทิงเป็นหลัก เพื่อเรียกคนให้เข้ามาร่วมงานมากๆ เพราะโดยธรรมขาติแล้ว ทุกคนเกิดมาเพื่อใช้ชีวิตให้มีความสุข 

ภาพ : club.sanook.com

ดังนั้นเสียงหัวเราะ จึงเป็นสิ่งที่หลายคนปรารถนา อย่าได้แปลกใจเลยว่า ทำไมบัตรเดี่ยวไมโครโฟน ของโน้ต อุดม แต้พานิช ขายยังไงๆ กี่รอบๆ ก็หมดไม่มีเหลือ เพราะ พี่โน้ต เล่นเอาเรื่องโดนๆที่หลายคนคาดไม่ถึงมาเล่า ในรูปแบบที่น่าสนใจ น่าติดตาม ขั้นมหาเทพเลยจริงๆ 

แต่สำหรับการจัดงานในบริษัท ทุกอย่างของการลงทุน ต้องมีกำไรกลับมา จะมีประโยชน์อะไร ถ้าขำอย่างเดียว โดยไม่มีสาระ ไม่มีประโยชน์ใดๆซึมเข้าไปในเนื้อสมองและความคิดบ้าง ดังนั้น ไหนๆจะต้องเสียเงินแล้วในการจ้างวิทยากรมา ก็ควรได้ให้ครบ ได้บันเทิง เชิงสาระ ไม่ง่วง ไม่หลับ กลับได้ประโยชน์




แล้วถ้าเซฟตี้อย่างเราๆ จะลองทำทอล์คโชว์เองบ้าง ทำได้มั้ย ยากมั้ย  ก่อนที่ผมจะตอบ ผมอยากจะถามพวกเราก่อนว่า  มีใครห้ามคุณหรือเปล่าครับ?  ถ้าไม่มีใครห้าม ก็จงลงมือทำเองเถอะครับ มันง่ายกว่าการยืนพูด ยืนสอนเป็นวันๆมาก พูดแค่ 1-2 ชม.เอง

ส่วนตัว ผมเคยคิดว่ามันยากเหมือนกันครับ แต่เชื่อมั้ยว่า ถ้าเราทำตาม 6 ขั้นตอนนี้แล้ว รับรองจากที่บอกว่าโคตรยาก มันจะกลายเป็น โคตรง่าย 

1. ฟัง และ อ่านหนังสือที่เกี่ยวข้อง ในเรื่องที่จะพูดเยอะๆ
2. บันทึกคำที่ประทับใจที่สุดเก็บไว้
3. นำมาเขียน เรียบเรียง ตกแต่ง ปรับมุขให้ตรงยุค ตรงสมัย ตรงสไตล์ของเรา
4. ท่องให้ได้ทั้งหมด
5. ซ้อม ซ้อม ซ้อม แล้วก็ซ้อม
6. ลุย และทำให้ดีที่สุด

หลายคนบอกพี่โมทย์ พี่บ้าไปแล้ว เขียนซะง่ายขนาดนี้ แต่ถ้าให้ทำน่ะมันยากนะ ผมบอกว่า คนที่บอกว่ายากส่วนใหญ่ คือ คนที่ไม่มีเป้าหมายชัดเจน และยังไม่ลงมือทำ 

ผมเองทำตามขั้นตอนนี้จริงๆ ไหนๆถ้าผมจะทำทอล์คโชว์แล้ว มันต้องมีการเตรียมสคริปต์ แต่ไหนๆจะทำสคริปต์แล้ว ผมเขียนเป็นหนังสือเลยดีกว่า จะได้จำได้และง่ายต่อการทบทวน ท่องจำบท




แต่เชื่อมั้ยว่า ถ้าเราเตรียมตัว 100 % แต่พอเอาเข้าจริงๆแล้ว เราไม่มีทางทำได้ 100 %  เหมือนที่ซ้อมหรอก อย่างมากก็ทำได้แค่ 50 % ดังนั้นถ้าอยากได้ผล 100 % เต็ม เราต้องเตรียมตัว 200 %

วินัยเป็นเรื่องที่สำคัญมาก แม้ว่าหลายคนจะไม่ชอบก็ตาม

อยากสูงต้องเขย่ง อยากเก่งต้องขยัน 
อยากถึงฝั่งฝัน ต้องมุ่งมันและอดทน


ถ้าผมทำได้พวกเราทุกคนก็ทำได้ ลุยเลยครับ...

ข่าวดี! ผมนำสิ่งเหล่านี้มาเผยแพร่แล้วนะครับ 

สำหรับผู้ที่สนใจ หนังสือ เป็นนักพูดมืออาชีพไม่ยาก ใครๆก็เป็นได้ 
 
 

 
มีวางจำหน่ายทางออนไลน์เท่านั้นนะครับ เล่มละ 270 บาท เหลือ 250 บาท พิเศษโปรโมชั่นเดือนพ.ค. ส่งฟรี EMS 

ติดต่อได้ที่ LINE:  @thesafetycoach
 
หรือสั่งผ่าน Shopee พร้อมลายเซ็น Shopee
 

"เป็นนักพูดอาชีพไม่ยาก ใครๆก็เป็นได้"
www.pramoteo.com